Home



Powered by Myfxbook.com



Powered by Myfxbook.com



Powered by Myfxbook.com


ค่า Correlation โดยดูว่า คู่เงินที่มีค่า Correlation มากกว่า 80% แสดงว่าราคาวิ่งไปในทางเดียวกัน
แต่ถ้าค่า Correlation น้อยกว่า -80% แสดงว่าราคาวิ่งสวนทางกัน ซึ่งเราสามารถเลือกใน Timeframe ที่เล็กลง เพื่อเลือกเล่นคู่เงินนั้นในช่วงสั้นๆของวันก็ได้ครับ

แล้วทำไมคู่เงิน2คู่ถึงเกิด Correlation กันได้ ?
ตอบ ก็เพราะเกิดจากการอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งมี USD เป็นแกนหลัก และทำให้ค่าเงินที่สัมพันธ์กับ USD ก็มีความสัมพันธ์กันทางอ้อม และมีอีกหลายๆเงื่อนไข เช่น USD กับ Gold ก็มีความสัมพันธ์กับแบบ ตรงกันข้าม เพราะ Gold ถือเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และความเสียงในด้านต่างๆอีกมากมาย จึงทำให้เมื่อค่าเงิน USD อ่อน Gold จะขึ้น หรือในทางตรงกันข้าม เมื่อค่าเงิน USD แข็ง Gold จะลง

จุดนี้หลายคนก็เริ่มจะเห็นจุดน่าสนใจอีกจุดก็คือ ตัวอย่าง ถ้าคนที่เล่นคู่ EURUSD แล้วเปิดกราฟ Gold เทียบไปด้วย จะเห็นว่ามีความสัมพันธ์ที่ไปในแนวทางเดียวกัน เพราะ คู่ EURUSD เมื่อ USD แข็งค่า EURUSD จะวิ่งลง เป็นกราฟสัมพันธ์กับราคา Gold แต่ข้อควรระวัง ราคา Gold นั้นไม่ได้อ้างอิงแค่ USD เพียงอย่างเดียว ยังขึ้นกับอีกหลายๆปัจจัยเช่น สงคราม ราคาน้ำมัน หรือแม้กระทั่ง JPY หรือเงินหยวนของจีนก็ตาม เพราะจีนคือตลาดทองที่ใหญ่มากของโลก

หรืออีกความสัมพันธ์หนึ่งถ้าได้ติดตามข่าวสาร จะเห็นว่าจีนเป็นประเทศนำเข้าและส่งออกหลักของ AUS ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าเศรษฐกิจจีนตก ค่าเงิน AUS มีโอกาสตกด้วย

ความสัมพันธ์ เหล่านี้แหล่ะครับ ที่ทำให้เกินค่า Correlation กัน


ซึ่งแต่ละคู่เงิน อาจไม่ได้วิ่งสวนทางกันพอดี หรือวิ่งทางเดียวกันพอดี เพียงแต่มีแน้วโน้มที่สัมพันธ์กัน 60%-80% ยกเว้นช่วงมีข่าว กราฟอาจจะกระชากแรง ทำให้สองคู่เงินวิ่งไม่เท่ากัน แต่ก็มีแนวโน้มที่ความสัมพันธ์จะกลับมา หลังจากข่าวจบไปแล้ว

ถ้าเราสังเกตุเทียบกันบ่อยๆ จะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจเวลาเข้าออเดอร์ หรือ ตัดขาดทุนได้แม่นยำมากขึ้น โดยการเปิดกราฟคู่เงินที่มีความสัมพันธ์กัน ช่วยเพิ่มข้อมูลในการตัดสินใจ หวังว่าความรู้นี้คงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sniper Trader ผู้ล่าในตลาด Forex

กลุ่มไลน์ส่งข่าวสาร Forex ฟรีทุกวัน