Sniper Trader ผู้ล่าในตลาด Forex
Sniper Trader คือ ผู้ล่าในตลาด Forex
Forex ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ
(Foreign Exchange)
หรือปกติเราเรียกว่า “Forex” หรือ“FX”
เป็นตลาดการเงินการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
คือ มีมูลค่าการซื้อขายถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน
Forex จึงเป็น กองเงิน กองทอง ขนาดใหญ่ เป็นที่หมายตา ของเหล่าบรรดานักลงทุน เพียงคุณมีความรู้ความสามารถที่จะมาเอามันไปครอบครองเท่านั้นเอง
ทำให้เปรียบเสมือน สงครามที่ผู้คนต้องแย่งชิงกันเพื่อที่จะครอบครองเงิน
เมื่อเกิดสงครามก็ธรรมดาที่จะมีผู้ชนะ หรือ ผู้แพ้ เป็นเรื่องปกติ
แต่จะทำอย่างไรให้เรา คือ ผู้ชนะ ในสงครามการเงินนี้
เทคนิคอย่างหนึ่ง คือ เราต้องรู้ว่าเราสู้อยู่กับใคร >> กองทุนขนาดใหญ่ที่จะยอมเสียเงินมากมายเพื่อจะเป็น ผู้ชนะ นั้นเอง
แล้วทำไมคุณ? ต้องเป็น Sniper Trader >>ในสงครามการ Sniper พลซุ่มยิงเป็นบุคคลสำคัญเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัย ในการสังการศัตรู จึงเป็น ''กลยุทธ์"ที่สามารถมาปรับใช้ในการเทรดForexได้ และได้ผลดีด้วย
Sniper Trader จึงเปรียบเสมือน นักล่า ในตลาด forez นั้นเอง
โดย 97% ของจำนวนเทรดเดอร์ในตลาดฟอเร็กซ์ ระหว่าง นักล่า และ เหยื่อ
(Predators and Preys)
แล้วต่อไปนี้เราจะอธิบายความจริงในตลาด Forex ให้ท่านเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
การวิเคราะห์เชิงเทคนิคในตลาดForexมีมานานแล้ว เจ้าของเทคนิคต่าง ๆ บอกเทรดเดอร์ให้ใช้และรับกำไรจากเทคนิคพวกนี้
แต่จำนวนเทรดเดอร์ที่พ่ายแพ้ในตลาดฟอเร็ก์ยังคงคิด
เป็นเปอร์เซ็นต์ระหว่าง 97-99%
Scam dealing centers(โบรคเกอร์) เชื้อเชิญให้เทรดเดอร์ทุกระดับเรียนเทคนิคต่าง ๆ ผ่านคอร์สของพวกเขา และเชื้อเชิญให้เปิดบัญชีกับโบรคเกอร์ของเขา
เทรดเดอร์เรียนวิธีการเทรดต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย แต่พวกเขาก็ยังแพ้ อีกครั้ง และอีกครั้ง
ใครว่าไม่แปลกบ้าง ??
97% เทรดเดอร์ที่พ่ายแพ้ เป็นตัวเลขทางสถิติ เป็นตัวเลข ที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า
" an objective correlation between variables "
เป็นตัวเลขสหสัมพันธ์ทางวัตถุ
คำถามอะไรบ้าง ที่เทรดเดอร์ไม่ค่อยได้ถาม
เช่น ความลับจะเป็นความลับเหรอถ้าบอกเทรดเดอร์เป็นล้าน ๆ คน??
มีกิจกรรมอะไรบ้างที่ทำเงินเยอะๆ ด้วยการก็อปปี้วิธีการอย่างเดียว โดยปราศจากความเข้าใจโครงสร้างภายในอย่างแท้จริง มีไหม?
มีบ่อนคาสิโนที่ไหนบ้าง ที่เจ้ามือจะบอกวิธีการทำเงินจากพวกเขาทุก ๆ วัน ?
ทำไมพวกเราหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยและทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ปรากฎว่า เราก็ยังไม่อยู่ในพวก 3% ผู้ชำนาญการ?
แล้วมีไหมที่จะเป็นผู้ชำนาญการใน 3% นั้นภายใน สามสัปดาห์ หรือภายในการอบรมระยะสามเดือน มีไหม?
ทำไม ใคร และอย่างไร พวกเขาถึงอยากให้เราเชื่อเรื่องที่เขาบอกจัง ?
ใจความสำคัญ เรื่อง การหลอกลวงเทรดเดอร์
ตลาดฟอเร็กซ์ เป็นตลาดที่ ไม่มีความสมดุลของดีมานด์ และซัพพลาย ของสกุลเงินรอบโลก
ขณะที่เทรดเดอร์จำนวน 97% เชื่อว่ามี
(demand and supply not balance)
ความจริงก็คือ Forex เป็นตลาดระหว่าง นักล่าและเหยื่อ (Predators and Preys)
โดยผ่านทางการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์เรื่องคลื่น (wave)
การตบตาหลอกลวงมากขึ้น แปลว่า การเคลื่อนไหวของราคาที่ดูแข็งแรงขึ้น (ความแข็งแรงผ่านทางการวิเคราะห์เทคนิค และการวิเคราะห์คลื่น)
ขณะที่เทรดเดอร์ใหม่ ๆ มีความฝันอยากจะเป็นนักล่า แต่ปรากฎว่าพวกเขาถูกมองว่าเป็นเหยื่อโดย โบรคเกอร์ต่าง ๆ และพวกตั้งโต๊ะเป็นพ่อค้าคนกลาง
การโฆษณาForex มีค่าใช้จ่ายเป็นหลักพันล้านดอลล่าร์ เพื่อที่จะดึงเหยื่อเข้ามายังโบรคเกอร์ต่าง ๆ และเชื้อเชิญให้พวกเขาฝากเงิน
และเทรดเดอร์ต่าง ๆ ก็ตกเป็นเหยื่อให้กับโบรคเกอร์ พวกนี้ได้กำไรไปเยอะมาก
เป็นไปได้ไหมที่จะยกระดับตัวเองจากเหยื่อเป็นนักล่า??
การฝึกฝนที่จะเป็น Sniper Trader จึงเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยกฎพื้นฐานของธรรมชาติและสังคม
1.เหยื่อมากกว่านักล่าเสมอ
2.นักล่าจะรู้พฤติกรรมเหยื่อเสมอ แต่ปรากฎว่าเหยื่ออยู่ห่างไกลจากการรับรู้พฤติกรรมตัวเอง และยังไม่รู้พฤติกรรมนักล่าอีกด้วย
3.ตรรกศาสตร์(logic) พฤติกรรมของนักล่า ไม่ได้เหมือนกับพฤติกรรมของเหยื่อ
4.เพื่อเข้าใจพฤติกรรมนักล่า คุณต้องคิดว่าตัวเองเป็นนักล่า
5.ความรู้นี้ไม่ได้แม้กระทั่งจะเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในมหาวิทยาลัย
6.การแลกเปลี่ยนต่าง ๆ เป็นรูปแบบสมมุติ (ideal model) ระหว่าง นักล่าและเหยื่อของเขา
เกณฑ์วัดหรือบรรทัดฐาน เพื่อวัดความแตกต่างระหว่างนักล่า และเหยื่อ (ผู้แพ้ และเทรดเดอร์ผู้ชนะ)
1.ทัศนคติต้องการให้ตนเองและคนอื่นก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
1.1 คุณสมบัตินี้มักปรากฎในบุคคลเช่น ประธานาธิบปดี ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ เป็นต้น เป็นผู้ที่ต้องการทำชีวิตให้ดีขึ้น
1.2 สำหรับตลาดฟอเร็กซ์ ต่อไปนี้สำคัญสำหรับเหยื่อ
1.2.1 ฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เช่นข่าวเป็นต้น
1.2.2 คาดคิดถึงวัตถุประสงค์ของข่าว เช่นต้องดูว่าดีกว่าหรือแย่กว่าที่คาดการณ์ไหม
1.2.3 ซื้ออินดิเคเตอร์ เพื่อหวังปาฎิหารย์จะเกิดกับตัวเอง แทนที่จะพยายามเข้าใจว่า อะไร และเมื่อไหร่ ที่อินดิเคเตอร์นี้บอก และโชคไม่ดีนัก
เพราะอินดิเคเตอร์พวกนี้ คือหนทางสู่ความตายในตลาดฟอเร็กซ์เท่า ๆ กับชีวิตจริง
1.2.4 นักล่ามักจะเก่งในการวิเคราะห์ และมั่นใจในตนเอง
1.2.5 นักล่าจะไม่พิจารณาว่าทีมเป็นฝูงชน เขาหรือเธอเข้าใจชัดเจนว่าทีมของพวกเขาเป็นทีมนักล่า และจะไม่ทำงานคนเดียว
พวกเขาจะแบ่งหน้าที่กัน สมาชิกมีจำนวนมากเช่นสองร้อยคน รับมือกับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้ามาตลอดเวลา
กลุ่มหนึ่งทำรายการคำนวณ และรวบรวมข้อมูลเป็นหนึ่งเดียว (united algorithm)
การทำงานนี้ไม่สามารถทำคนเดียวในทุก ๆ วัน ต้องทำกันเป็นทีม
ถึงเวลาหรือยังที่ควรจะวิเคราะห์ความผิดพลาดของตนเอง?
เหยื่อมักจะตำหนิพฤติกรรมแวดล้อมเสมอเช่นข่าว รัฐบาล สังคม ระบบต่าง ๆ
นักล่าตำหนิตัวเขาเองเท่านั้น ผลก็คือเขาได้รับบทเรียนจากตัวเขาเอง
ความกลัวต่อพฤติกรรมแวดล้อมคือคุณสมบัตของเหยื่อ
สัญชาตญาณเรื่องความปลอดภัยเป็นคุณสมบัติของนักล่า
นักล่ารู้ขีดจำกัดตัวเอง ว่าขนาดไหนถ้าเขาทำเขาจะกลายเป็นเหยื่อเอง
ในตลาดฟอเร็กซ์ การระบุขีดจำกัดก็คือการตั้ง stop loss เพื่อล็อคขนาดขีดจำกัด
ความเสี่ยงไว้นั่นเอง
เหยื่อจะไม่แบ่งแยกสังคมออกเป็นนักล่าและเหยื่อ
นักล่าจะไม่ช่วยเหยื่อที่จะแบ่งแยกหรอก พวกเขารับรู้ว่าใครเป็นเหยื่อ และใครเป็นนักล่าที่ล่าพวกเขาในบางครั้ง
ความสำเร็จของเขาขึ้นอยู่กับ ความเข้าใจอัลกอริทึมของนักล่าและเหยื่อ ณ เวลาและสถานที่ ที่ชัดเจน
วอเรนท์ บัฟเฟต คอนเฟิร์มเรื่องนี้โดยกล่าวไว้ว่า ถ้าพวกคุณไม่เข้าใจว่า
ใครคือผู้เสียเงินในตลาดนี้ ดังนั้นผู้เสียเงินก็คือคุณนั่นเอง
นักล่าที่ยิ่งใหญ่จะมีคำตอบเรื่องนี้อย่างชัดเจน
เราจะมีโอกาสเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จไหม?
คิดถึงอัลกอริทึม 97%:3% อัตราส่วนเหยือ ต่อ นักล่า
นักเรียนที่ประสบความสำเรจจะมีทิศทางเป็นของตนเอง
ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหา
อัลกอริทึมว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คำตอบอีกอันก็คือ จะไม่เชื่อฝูงชนง่าย ๆ ทั้งในตลาดฟอเร็กซ์และชีวิตจริง
ฝูงชนประกอบด้วยเหยือจำนวนมาก ส่วนนักล่า ตัวอย่างเช่นนักการเมือง ผู้จัดการธนาคาร
บริษัทต่าง ๆ เป็นต้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น
เหยื่อจะทำตามที่นักการเมืองพูดออกทีวี
สกุลเงินอะไรที่เราจะเก็บไว้ ดอลล่าร์หรือยูโร ?
ในต้นปี 2008 ประชาชนทั่วโลกมั่นใจว่าเศรษฐกิจของอเมริกาจะแย่ สกุลเงินดอลล่าร์
จะอ่อนแอลงเป็นเวลาหลายปี
คำตอบต่อไปนี้จะชัดมากคือ
เริ่มด้วยการหาอัลกอริทึม ธนาคารอะไรบ้างที่เริ่มกระบวนการในทางตรงข้ามกับข่าวที่ออกมาบ้างในทั่วโลก
อาจจะไมใช่คำพูดของนักการเมืองที่คุณควรเชื่อ
ความจริงก็คือ ธนาคารจีน รัสเซีย และธนาคารต่าง ๆ ในประเทศชั้นนำทั่วโลก เริ่มที่จะแลกเปลี่ยนเงินดอลล่ารและยูโร กับทองที่เขามี คุณก็ควรทำตามเขา
เป็นไปได้ที่เราจะตามเทรนด์โดยใช้ความลับที่อยู่ภายใต้ อัลกอริทีมการเคลื่อนไหวของฝูงเหยื่อ
ภาพก็คือ EU ตก ตั้งแต่ปี 2008 ก็คือ
ดอลล่าร์แข็งตามภาพ ตั้งแต่เริ่มมีข่าวว่าดอลล่าร์จะแย่ และพวกจีน รัสเซียก็เลยซื้อดอลล่าร์ใหญ่เลย
วิเคราะห์สถานการณ์
ทำไมเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ เทรดเดอร์ที่มีรายได้ถึง 2000% ต่อปี
ยังจำเป็นที่จะยืมเงินมูลค่าห้าพันหรือหนึ่งหมื่นดอลลาร์ จากเทรดเดอร์ทั่วไป
Dealing center (โบรคเกอร์) สามารถที่จะเปิดการเทรดดิ้งแบบปลอม ๆ เพื่อดึงดูดเรา แล้วคุณคิดว่าพวกเขาสามารถเข้าดูข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ได้หรือไม่?
โบรคเกอร์จะรับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินหลายล้านของเทรดเดอร์ไหม คำตอบคือไม่
จะทำอย่างไรเพื่อที่จะเป็นหนึ่งคนใน 3%
1.ค้นคว้า know-how อย่าก็อปปี้วิธีการเทรดที่มีอยู่แล้วทั่วโลก
2.สะสมประสบการณ์และทำให้ตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ เช่น ศึกษาด้วยการปฏิบัติใช้
know-how ที่มีอยู่ สถาบันต่าง ๆ พวกเขาก็ค้นคว้าจากการฝึกฝนประจำวันแบบนี้
และในที่สุดพวกเขาก็ได้คำตอบจากการทดลองเทรด
3.ก่อนเปิดบัญชีจริง เราอาจต้องถามตัวเองก่อนว่ามีความชำนาญ เข้าใจตลาดดีกว่าคนเหล่านี้หรือไม่ Soros, Buffet, Bill Williams, Demark,
Elder, Nili,Dinapoi etc.?
หรือคุณเข้าใจอัลกอริทึมของคนเหล่านี้หรือยัง
คุณสามารถที่จะชนะตลาดหรือยัง ถ้ายัง คุณต้องคิดต่อว่าจะทำอย่างไรเข้าเป็นหนึงคนใน 3%นั้น
เรื่องจำเป็นที่ต้องดูระหว่างผู้ชำนาญและเด็กฝึกงาน
1.ผู้ชำนาญสอนอัลกอริทีม
2.เด็กฝึกงานสอนตามตำรา และสรุปจากการก็อปปี้ผลลัพทธ์โดยปราศจาก
ความสำเร็จ ด้วยความไม่เข้าใจในเนื้อหาสำคัญในอัลกอริทึม
ก่อนจะเปิดบัญชีเงินจริงควรที่จะ
1.เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาในสกุลเงินต่าง ๆ ทุก Timeframe M1 ถึง W1 2.สะสมประสบการณ์ คุณควรติดตาม timeframe H4 ด้วย
3.การบริหารเงิน ก็เช่น ถ้าคุณมีเงิน 1000 ดอลลาร์ lot ควรไม่เกิน 0.10
4.หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เพื่มตามความเชื่อมั่นเช่น 0.1, 0.2,0.3, 0.5,1,2 เป็นต้น
The market orders of Oanda “preys” for predators' analysis
นักล่าวิเคราะห์ข้อมูลจาก ออเดอร์ของเหยื่อที่วางไว้ในตลาด
ต้องย้ำว่าพฤติกรรมของเหยื่อเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้
ถ้าระดับราคาได้ผ่าน ระดับราคาที่เหยื่อวางออเดอรไว้ จะเป็นสัญญาณที่บอกว่าเหยื่อจะถูกปิดบัญชี หรือ การสต๊อปออเดอร์ของเหยื่อ
เช่นภาษา stop hunting คือการล่าเหยื่อที่ชอบทำ buy stop, sell stop ไว้
buy limit อาหารอันโอชะ
รูปนี้เหยื่อตั้ง buy limit ไว้ข้างบนด้านซ้าย นักล่า(เจ้ามือ) ดึงลงยาวเลยทีนี้
มีคำถามหลายคำถามที่จะมีคำตอบหรือหาคำตอบกันต่อไป
ใครเป็นผู้กำหนดราคาที่เหมือนกันในตลาดฟอเร็กซ์ เหมือนกันทั่วโลก
ก็คือผู้คิดค้นเกมส์ฟอเร็กซ์เกมส์นี้นั่นเอง แต่ใครล่ะ
ทำไมการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานถึงไม่เหมาะสมสำหรับเทรนด์ short-term, mid-term?
Airbag คืออะไร และทำไมควรใช้แทนการใช้ stop-loss?
คอร์สการสอนฟอเร็กซ์ จะสอนทุกเรื่องยกเว้นเรื่องที่เป็นอัลกอริทึมที่เป็นความลับ
เป็นต้น
คุณพร้อมแล้วหรือยัง ? ที่จะฝึกฝนในการเป็น Sniper Trader ณ ตอนนี้
By... Tle_Terapat
Forex ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ
(Foreign Exchange)
หรือปกติเราเรียกว่า “Forex” หรือ“FX”
เป็นตลาดการเงินการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
คือ มีมูลค่าการซื้อขายถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน
Forex จึงเป็น กองเงิน กองทอง ขนาดใหญ่ เป็นที่หมายตา ของเหล่าบรรดานักลงทุน เพียงคุณมีความรู้ความสามารถที่จะมาเอามันไปครอบครองเท่านั้นเอง
ทำให้เปรียบเสมือน สงครามที่ผู้คนต้องแย่งชิงกันเพื่อที่จะครอบครองเงิน
เมื่อเกิดสงครามก็ธรรมดาที่จะมีผู้ชนะ หรือ ผู้แพ้ เป็นเรื่องปกติ
แต่จะทำอย่างไรให้เรา คือ ผู้ชนะ ในสงครามการเงินนี้
เทคนิคอย่างหนึ่ง คือ เราต้องรู้ว่าเราสู้อยู่กับใคร >> กองทุนขนาดใหญ่ที่จะยอมเสียเงินมากมายเพื่อจะเป็น ผู้ชนะ นั้นเอง
แล้วทำไมคุณ? ต้องเป็น Sniper Trader >>ในสงครามการ Sniper พลซุ่มยิงเป็นบุคคลสำคัญเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัย ในการสังการศัตรู จึงเป็น ''กลยุทธ์"ที่สามารถมาปรับใช้ในการเทรดForexได้ และได้ผลดีด้วย
Sniper Trader จึงเปรียบเสมือน นักล่า ในตลาด forez นั้นเอง
โดย 97% ของจำนวนเทรดเดอร์ในตลาดฟอเร็กซ์ ระหว่าง นักล่า และ เหยื่อ
(Predators and Preys)
แล้วต่อไปนี้เราจะอธิบายความจริงในตลาด Forex ให้ท่านเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
การวิเคราะห์เชิงเทคนิคในตลาดForexมีมานานแล้ว เจ้าของเทคนิคต่าง ๆ บอกเทรดเดอร์ให้ใช้และรับกำไรจากเทคนิคพวกนี้
แต่จำนวนเทรดเดอร์ที่พ่ายแพ้ในตลาดฟอเร็ก์ยังคงคิด
เป็นเปอร์เซ็นต์ระหว่าง 97-99%
Scam dealing centers(โบรคเกอร์) เชื้อเชิญให้เทรดเดอร์ทุกระดับเรียนเทคนิคต่าง ๆ ผ่านคอร์สของพวกเขา และเชื้อเชิญให้เปิดบัญชีกับโบรคเกอร์ของเขา
เทรดเดอร์เรียนวิธีการเทรดต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย แต่พวกเขาก็ยังแพ้ อีกครั้ง และอีกครั้ง
ใครว่าไม่แปลกบ้าง ??
97% เทรดเดอร์ที่พ่ายแพ้ เป็นตัวเลขทางสถิติ เป็นตัวเลข ที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า
" an objective correlation between variables "
เป็นตัวเลขสหสัมพันธ์ทางวัตถุ
คำถามอะไรบ้าง ที่เทรดเดอร์ไม่ค่อยได้ถาม
เช่น ความลับจะเป็นความลับเหรอถ้าบอกเทรดเดอร์เป็นล้าน ๆ คน??
มีกิจกรรมอะไรบ้างที่ทำเงินเยอะๆ ด้วยการก็อปปี้วิธีการอย่างเดียว โดยปราศจากความเข้าใจโครงสร้างภายในอย่างแท้จริง มีไหม?
มีบ่อนคาสิโนที่ไหนบ้าง ที่เจ้ามือจะบอกวิธีการทำเงินจากพวกเขาทุก ๆ วัน ?
ทำไมพวกเราหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยและทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ปรากฎว่า เราก็ยังไม่อยู่ในพวก 3% ผู้ชำนาญการ?
แล้วมีไหมที่จะเป็นผู้ชำนาญการใน 3% นั้นภายใน สามสัปดาห์ หรือภายในการอบรมระยะสามเดือน มีไหม?
ทำไม ใคร และอย่างไร พวกเขาถึงอยากให้เราเชื่อเรื่องที่เขาบอกจัง ?
ใจความสำคัญ เรื่อง การหลอกลวงเทรดเดอร์
ตลาดฟอเร็กซ์ เป็นตลาดที่ ไม่มีความสมดุลของดีมานด์ และซัพพลาย ของสกุลเงินรอบโลก
ขณะที่เทรดเดอร์จำนวน 97% เชื่อว่ามี
(demand and supply not balance)
ความจริงก็คือ Forex เป็นตลาดระหว่าง นักล่าและเหยื่อ (Predators and Preys)
โดยผ่านทางการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์เรื่องคลื่น (wave)
การตบตาหลอกลวงมากขึ้น แปลว่า การเคลื่อนไหวของราคาที่ดูแข็งแรงขึ้น (ความแข็งแรงผ่านทางการวิเคราะห์เทคนิค และการวิเคราะห์คลื่น)
ขณะที่เทรดเดอร์ใหม่ ๆ มีความฝันอยากจะเป็นนักล่า แต่ปรากฎว่าพวกเขาถูกมองว่าเป็นเหยื่อโดย โบรคเกอร์ต่าง ๆ และพวกตั้งโต๊ะเป็นพ่อค้าคนกลาง
การโฆษณาForex มีค่าใช้จ่ายเป็นหลักพันล้านดอลล่าร์ เพื่อที่จะดึงเหยื่อเข้ามายังโบรคเกอร์ต่าง ๆ และเชื้อเชิญให้พวกเขาฝากเงิน
และเทรดเดอร์ต่าง ๆ ก็ตกเป็นเหยื่อให้กับโบรคเกอร์ พวกนี้ได้กำไรไปเยอะมาก
เป็นไปได้ไหมที่จะยกระดับตัวเองจากเหยื่อเป็นนักล่า??
การฝึกฝนที่จะเป็น Sniper Trader จึงเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยกฎพื้นฐานของธรรมชาติและสังคม
1.เหยื่อมากกว่านักล่าเสมอ
2.นักล่าจะรู้พฤติกรรมเหยื่อเสมอ แต่ปรากฎว่าเหยื่ออยู่ห่างไกลจากการรับรู้พฤติกรรมตัวเอง และยังไม่รู้พฤติกรรมนักล่าอีกด้วย
3.ตรรกศาสตร์(logic) พฤติกรรมของนักล่า ไม่ได้เหมือนกับพฤติกรรมของเหยื่อ
4.เพื่อเข้าใจพฤติกรรมนักล่า คุณต้องคิดว่าตัวเองเป็นนักล่า
5.ความรู้นี้ไม่ได้แม้กระทั่งจะเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในมหาวิทยาลัย
6.การแลกเปลี่ยนต่าง ๆ เป็นรูปแบบสมมุติ (ideal model) ระหว่าง นักล่าและเหยื่อของเขา
เกณฑ์วัดหรือบรรทัดฐาน เพื่อวัดความแตกต่างระหว่างนักล่า และเหยื่อ (ผู้แพ้ และเทรดเดอร์ผู้ชนะ)
1.ทัศนคติต้องการให้ตนเองและคนอื่นก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
1.1 คุณสมบัตินี้มักปรากฎในบุคคลเช่น ประธานาธิบปดี ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ เป็นต้น เป็นผู้ที่ต้องการทำชีวิตให้ดีขึ้น
1.2 สำหรับตลาดฟอเร็กซ์ ต่อไปนี้สำคัญสำหรับเหยื่อ
1.2.1 ฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เช่นข่าวเป็นต้น
1.2.2 คาดคิดถึงวัตถุประสงค์ของข่าว เช่นต้องดูว่าดีกว่าหรือแย่กว่าที่คาดการณ์ไหม
1.2.3 ซื้ออินดิเคเตอร์ เพื่อหวังปาฎิหารย์จะเกิดกับตัวเอง แทนที่จะพยายามเข้าใจว่า อะไร และเมื่อไหร่ ที่อินดิเคเตอร์นี้บอก และโชคไม่ดีนัก
เพราะอินดิเคเตอร์พวกนี้ คือหนทางสู่ความตายในตลาดฟอเร็กซ์เท่า ๆ กับชีวิตจริง
1.2.4 นักล่ามักจะเก่งในการวิเคราะห์ และมั่นใจในตนเอง
1.2.5 นักล่าจะไม่พิจารณาว่าทีมเป็นฝูงชน เขาหรือเธอเข้าใจชัดเจนว่าทีมของพวกเขาเป็นทีมนักล่า และจะไม่ทำงานคนเดียว
พวกเขาจะแบ่งหน้าที่กัน สมาชิกมีจำนวนมากเช่นสองร้อยคน รับมือกับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้ามาตลอดเวลา
กลุ่มหนึ่งทำรายการคำนวณ และรวบรวมข้อมูลเป็นหนึ่งเดียว (united algorithm)
การทำงานนี้ไม่สามารถทำคนเดียวในทุก ๆ วัน ต้องทำกันเป็นทีม
ถึงเวลาหรือยังที่ควรจะวิเคราะห์ความผิดพลาดของตนเอง?
เหยื่อมักจะตำหนิพฤติกรรมแวดล้อมเสมอเช่นข่าว รัฐบาล สังคม ระบบต่าง ๆ
นักล่าตำหนิตัวเขาเองเท่านั้น ผลก็คือเขาได้รับบทเรียนจากตัวเขาเอง
ความกลัวต่อพฤติกรรมแวดล้อมคือคุณสมบัตของเหยื่อ
สัญชาตญาณเรื่องความปลอดภัยเป็นคุณสมบัติของนักล่า
นักล่ารู้ขีดจำกัดตัวเอง ว่าขนาดไหนถ้าเขาทำเขาจะกลายเป็นเหยื่อเอง
ในตลาดฟอเร็กซ์ การระบุขีดจำกัดก็คือการตั้ง stop loss เพื่อล็อคขนาดขีดจำกัด
ความเสี่ยงไว้นั่นเอง
เหยื่อจะไม่แบ่งแยกสังคมออกเป็นนักล่าและเหยื่อ
นักล่าจะไม่ช่วยเหยื่อที่จะแบ่งแยกหรอก พวกเขารับรู้ว่าใครเป็นเหยื่อ และใครเป็นนักล่าที่ล่าพวกเขาในบางครั้ง
ความสำเร็จของเขาขึ้นอยู่กับ ความเข้าใจอัลกอริทึมของนักล่าและเหยื่อ ณ เวลาและสถานที่ ที่ชัดเจน
วอเรนท์ บัฟเฟต คอนเฟิร์มเรื่องนี้โดยกล่าวไว้ว่า ถ้าพวกคุณไม่เข้าใจว่า
ใครคือผู้เสียเงินในตลาดนี้ ดังนั้นผู้เสียเงินก็คือคุณนั่นเอง
นักล่าที่ยิ่งใหญ่จะมีคำตอบเรื่องนี้อย่างชัดเจน
เราจะมีโอกาสเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จไหม?
คิดถึงอัลกอริทึม 97%:3% อัตราส่วนเหยือ ต่อ นักล่า
นักเรียนที่ประสบความสำเรจจะมีทิศทางเป็นของตนเอง
ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหา
อัลกอริทึมว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คำตอบอีกอันก็คือ จะไม่เชื่อฝูงชนง่าย ๆ ทั้งในตลาดฟอเร็กซ์และชีวิตจริง
ฝูงชนประกอบด้วยเหยือจำนวนมาก ส่วนนักล่า ตัวอย่างเช่นนักการเมือง ผู้จัดการธนาคาร
บริษัทต่าง ๆ เป็นต้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น
เหยื่อจะทำตามที่นักการเมืองพูดออกทีวี
สกุลเงินอะไรที่เราจะเก็บไว้ ดอลล่าร์หรือยูโร ?
ในต้นปี 2008 ประชาชนทั่วโลกมั่นใจว่าเศรษฐกิจของอเมริกาจะแย่ สกุลเงินดอลล่าร์
จะอ่อนแอลงเป็นเวลาหลายปี
คำตอบต่อไปนี้จะชัดมากคือ
เริ่มด้วยการหาอัลกอริทึม ธนาคารอะไรบ้างที่เริ่มกระบวนการในทางตรงข้ามกับข่าวที่ออกมาบ้างในทั่วโลก
อาจจะไมใช่คำพูดของนักการเมืองที่คุณควรเชื่อ
ความจริงก็คือ ธนาคารจีน รัสเซีย และธนาคารต่าง ๆ ในประเทศชั้นนำทั่วโลก เริ่มที่จะแลกเปลี่ยนเงินดอลล่ารและยูโร กับทองที่เขามี คุณก็ควรทำตามเขา
เป็นไปได้ที่เราจะตามเทรนด์โดยใช้ความลับที่อยู่ภายใต้ อัลกอริทีมการเคลื่อนไหวของฝูงเหยื่อ
ภาพก็คือ EU ตก ตั้งแต่ปี 2008 ก็คือ
ดอลล่าร์แข็งตามภาพ ตั้งแต่เริ่มมีข่าวว่าดอลล่าร์จะแย่ และพวกจีน รัสเซียก็เลยซื้อดอลล่าร์ใหญ่เลย
วิเคราะห์สถานการณ์
ทำไมเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ เทรดเดอร์ที่มีรายได้ถึง 2000% ต่อปี
ยังจำเป็นที่จะยืมเงินมูลค่าห้าพันหรือหนึ่งหมื่นดอลลาร์ จากเทรดเดอร์ทั่วไป
Dealing center (โบรคเกอร์) สามารถที่จะเปิดการเทรดดิ้งแบบปลอม ๆ เพื่อดึงดูดเรา แล้วคุณคิดว่าพวกเขาสามารถเข้าดูข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ได้หรือไม่?
โบรคเกอร์จะรับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินหลายล้านของเทรดเดอร์ไหม คำตอบคือไม่
จะทำอย่างไรเพื่อที่จะเป็นหนึ่งคนใน 3%
1.ค้นคว้า know-how อย่าก็อปปี้วิธีการเทรดที่มีอยู่แล้วทั่วโลก
2.สะสมประสบการณ์และทำให้ตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ เช่น ศึกษาด้วยการปฏิบัติใช้
know-how ที่มีอยู่ สถาบันต่าง ๆ พวกเขาก็ค้นคว้าจากการฝึกฝนประจำวันแบบนี้
และในที่สุดพวกเขาก็ได้คำตอบจากการทดลองเทรด
3.ก่อนเปิดบัญชีจริง เราอาจต้องถามตัวเองก่อนว่ามีความชำนาญ เข้าใจตลาดดีกว่าคนเหล่านี้หรือไม่ Soros, Buffet, Bill Williams, Demark,
Elder, Nili,Dinapoi etc.?
หรือคุณเข้าใจอัลกอริทึมของคนเหล่านี้หรือยัง
คุณสามารถที่จะชนะตลาดหรือยัง ถ้ายัง คุณต้องคิดต่อว่าจะทำอย่างไรเข้าเป็นหนึงคนใน 3%นั้น
เรื่องจำเป็นที่ต้องดูระหว่างผู้ชำนาญและเด็กฝึกงาน
1.ผู้ชำนาญสอนอัลกอริทีม
2.เด็กฝึกงานสอนตามตำรา และสรุปจากการก็อปปี้ผลลัพทธ์โดยปราศจาก
ความสำเร็จ ด้วยความไม่เข้าใจในเนื้อหาสำคัญในอัลกอริทึม
ก่อนจะเปิดบัญชีเงินจริงควรที่จะ
1.เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาในสกุลเงินต่าง ๆ ทุก Timeframe M1 ถึง W1 2.สะสมประสบการณ์ คุณควรติดตาม timeframe H4 ด้วย
3.การบริหารเงิน ก็เช่น ถ้าคุณมีเงิน 1000 ดอลลาร์ lot ควรไม่เกิน 0.10
4.หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เพื่มตามความเชื่อมั่นเช่น 0.1, 0.2,0.3, 0.5,1,2 เป็นต้น
The market orders of Oanda “preys” for predators' analysis
นักล่าวิเคราะห์ข้อมูลจาก ออเดอร์ของเหยื่อที่วางไว้ในตลาด
ต้องย้ำว่าพฤติกรรมของเหยื่อเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้
ถ้าระดับราคาได้ผ่าน ระดับราคาที่เหยื่อวางออเดอรไว้ จะเป็นสัญญาณที่บอกว่าเหยื่อจะถูกปิดบัญชี หรือ การสต๊อปออเดอร์ของเหยื่อ
เช่นภาษา stop hunting คือการล่าเหยื่อที่ชอบทำ buy stop, sell stop ไว้
buy limit อาหารอันโอชะ
รูปนี้เหยื่อตั้ง buy limit ไว้ข้างบนด้านซ้าย นักล่า(เจ้ามือ) ดึงลงยาวเลยทีนี้
มีคำถามหลายคำถามที่จะมีคำตอบหรือหาคำตอบกันต่อไป
ใครเป็นผู้กำหนดราคาที่เหมือนกันในตลาดฟอเร็กซ์ เหมือนกันทั่วโลก
ก็คือผู้คิดค้นเกมส์ฟอเร็กซ์เกมส์นี้นั่นเอง แต่ใครล่ะ
ทำไมการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานถึงไม่เหมาะสมสำหรับเทรนด์ short-term, mid-term?
Airbag คืออะไร และทำไมควรใช้แทนการใช้ stop-loss?
คอร์สการสอนฟอเร็กซ์ จะสอนทุกเรื่องยกเว้นเรื่องที่เป็นอัลกอริทึมที่เป็นความลับ
เป็นต้น
คุณพร้อมแล้วหรือยัง ? ที่จะฝึกฝนในการเป็น Sniper Trader ณ ตอนนี้
By... Tle_Terapat
ดีมาก
ตอบลบ